ครีมกันแดด: อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันผิวจากรังสีแสงอัลตราไวโอเลต

ครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ควรขาดเหนือหัวของใครหนึ่งในช่วงฤดูร้อนของปี แต่ก่อนที่เราจะเริ่มพูดถึงคุณสมบัติและประโยชน์ของครีมกันแดด เราต้องเข้าใจถึงความสำคัญของการป้องกันผิวหน้าจากรังสีแสงแอลตราไวโอเลต (UV) ก่อน

รังสี UV มีสองประเภทหลัก คือ UVB และ UVA ทั้งสองประเภทนี้สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อผิวหน้าและร่างกายได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ รวมถึงการเสื่อมสภาพของผิวหน้าและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังด้วย

การป้องกันผิวหน้าจากรังสี UV มีความสำคัญอย่างยิ่ง และนี่คือเหตุผลที่ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นต้องมีในการดูแลผิวหน้าของเรา แต่ก่อนที่เราจะเลือกใช้ครีมกันแดด เราควรทราบถึงคุณสมบัติของครีมที่ดี และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง

คุณสมบัติของครีมกันแดด:

SPF (Sunlight Protection Component): ค่า SPF เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสามารถในการป้องกันผิวหน้าจากรังสี UVB ยิ่งมีค่า SPF สูง ผลิตภัณฑ์ก็ยิ่งมีความสามารถในการป้องกันผิวหน้าจากรังสี UVB มากขึ้น
Wide Spectrum: ครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติ Wide Spectrum สามารถป้องกันผิวหน้าจากรังสี UVA และ UVB ได้
H2o-resistant: สำหรับครีมกันแดดที่มีคุณสมบัตินี้ จะช่วยให้ครีมยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันแม้ว่าจะเกิดการสัมผัสกับน้ำหรือเหงื่อ
การใช้งานครีมกันแดด:

การทาครีมกันแดดควรทำล่าสุด fifteen-30 นาทีก่อนการออกจากบ้าน เพื่อให้ครีมได้เวลาที่เพียงพอในการทำงานและเลียนแบบรังสี UV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ควรนำครีมกันแดดมาทาให้ทั่วทั้งผิวหน้า รวมถึงบริเวณที่บางครั้งเราอาจละเลยได้ เช่น ปลายหู ลำคอ และหลังต่าง ๆ
การทาครีมกันแดดควรทำซ้ำทุก 2-three ชั่วโมง หรือตามความจำเป็น เช่น เมื่อมีการให้เล่นน้ำหรือกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
เลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับประเภทผิว:

ครีมกันแดดสำหรับผิวแห้ง: ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่เติมความชุ่มชื้น เช่น อัลมอนด์ออยล์ ครีมกันแดด จะช่วยให้ผิวแห้งได้รับความชุ่มชื่นและป้องกันการขาดน้ำในช่วงเวลาที่ผิ